รีวิว Never Have I Ever SS2 ภารกิจสาวซน ก็คนมันไม่เคย ซีรีส์วัยรุ่น Netflix


แนะนำภาพยนต์  Never Have I Ever SS2  เนื้อเรื่องต่อจากตอนจบสุดท้ายของ SS1 ทันทีที่ฉากจูบในรถกับเบน ก่อนตัดมาที่แพกซ์ตันที่มารอเธอถึงบ้าน กลายเป็นว่านางเอกเลือกไม่ถูกสุดท้ายก็เลยต้องคบซ้อนก่อนไปอินเดียในอีก 1 เดือน เรื่องราวในซีซั่นนี้จึงเริ่มจากจุดนี้ และไปสิ้นสุดที่งานเต้นรำของโรงเรียนว่าใครคือพระเอกตัวจริง (ในซีซั่นนี้) กันแน่



โดยเรื่องราวใน Ss2 นี้โฟกัสไปที่เรื่องรักกับการเรียนของตัวละครในเรื่องเป็นสำคัญ พร้อมกับยิงมุกตลกมากกว่า Ss1 อย่างเห็นได้ชัด โดยลดเรื่องราวประเด็นสะท้อนสังคมของเด็กต่างชาติในอเมริกาลงไปพอสมควร แต่ก็ไม่ได้ทิ้งไปซะทีเดียวเพราะในซีซั่นนี้จะมีตอนเฉพาะของแพ็กซ์ตันล้วนๆ แบบเดียวกับที่เบนมีในซีซั่นแรก โดยมีสเปเชี่ยลแขกพิเศษมาให้เสียงบรรยายแนะนำเรื่องราวโดยเฉพาะจากนางแบบคนดัง จีจี ฮาดีด ที่บรรยายได้ตลกก๊วนโอ๊ยไม่แพ้ จอห์น แม็คเอนโร ที่ยังคงรับบทบรรยายให้นางเอกต่อจนจบเรื่อง ซึ่งตัวแพ็กซ์ตันเองก็เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นตามที่เรารู้ในซีซั่นแรก แต่กลับไม่ได้เห็นพ่อแม่ของเขาเลย มาในซีซั่นนี้ตัวละครครอบครัวของแพ็กซ์ตันมากันครบและมีบทมากพอสมควร โดยเฉพาะปู่ของเขาที่เป็นคนญี่ปุ่นเกิดในอเมริกายุคสงครามครั้งที่ 2 เป็นการเพิ่มแบ็คกราวด์ให้กับตัวละครนี้ขึ้นมากมาย และประเด็นเรื่องราวของแพ็กซ์ตันก็ถูกนำเสนอเยอะกว่าเบนมากด้วย อาจจะเพราะเบนได้บทในซีซั่นแรกมากพอที่คนดูจะรู้จักเขาแล้ว แต่กับแพ็กซ์ตันยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่คนไม่รู้ (แอบมีฉากขายมัดกล้ามเยอะกว่าซีซั่นแรกด้วย) 



สรุปเลยว่าถ้าใครชอบแนวรักตลกโรแมนติกเป็นหลักก็สนุกถูกใจกับซีซั่น 2 ได้มากกว่าซีซั่นแรกแน่นอน เพราะทั้งบททั้งจังหวะอารมณ์ต่างๆ ทำได้ดีมากมาย แต่ถ้าใครอยากได้ดราม่าปมปัญหาสังคมหลายอย่างแบบซีซั่นแรก อันนี้ก็แทบไม่มีเลย แต่เชื่อว่าคนดูส่วนใหญ่น่าจะชอบแนวทางแบบแรกมากกว่า ซึ่งซีซั่น 2 ก็ตอบโจทย์ทำให้คนหลงรักเรื่องนี้ไปเต็มๆ


 👉👉 นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวหนังแอคชั่นไซไฟ ได้ที่นี่



















Comments

Popular posts from this blog

รีวิวหนัง Six Minutes to Midnight รหัสลับ พลิกสมรภูมินรก

Seobok (2021) ซอบก

Detective Chinatown 3 แก๊งม่วนป่วนโตเกียว