รีวิว Downsizing (มนุษย์ย่อไซส์) แนวทางที่บันเทิง มีสีสัน และเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ขันที่มากขึ้น


Downsizing เล่าในแนวทางที่บันเทิง มีสีสัน และเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ขันที่มากขึ้น และด้วยเหตุที่ผิดแนวจากที่เคยนี้ เลยทำให้แฟน ๆ ประจำของเพย์นน่าจะรู้สึกผิดหวัง ทำให้คะแนนหนังทั้งใน IMDB และ Rottentomatoes ออกมาดูย่ำแย่ แต่ถ้ามองในแง่การเสพเพื่อความบันเทิงหนังก็ตอบสนองได้ดี บทที่เพยน์ เขียนร่วมกับ จิม เทย์เลอร์ คู่หูของเขาที่ทำงานร่วมกันมาใน Sideways , About Schmidt , Election ลื่นไหลและลงลึกในรายละเอียดได้อย่างสมจริงและน่าติดตาม


เรื่องราว เรื่องราวของในอนาคตอันใกล้ กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ชาวนอร์เวย์สามารถค้นพบวิธีการย่อส่วนขนาดตัวของมนุษย์ให้เหลือขนาดแค่เพียงห้านิ้ว เพื่อเป็นทางออกในการแก้ปัญหาประชากรล้นโลกและทรัพยากรไม่เพียงพอ หลังจากริเริ่มโครงการได้ไม่นาน จากการค้นพบ สู่การสร้างชุมชนขนาดย่อมเพื่อให้ประชากรย่อส่วนตัวเองมากยิ่งขึ้น ผู้คนในสังคมทั่วโลกโยกย้ายจากโลกปัจจุบันไปสู่สังคมย่อส่วนมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับผู้ชายธรรมดาที่ทำงานในโรงงานผลิตเนื้อสัตว์อย่างพอล ซาฟราเน็ก (แม็ตต์ เดม่อน) และภรรยาของเขาอย่างออเดรย์ (คริสเตน วิก) ทั้งสองตัดสินใจอยู่นานในการจะทิ้งชีวิตที่ภาระรุงรังไปด้วยหนี้สิน เพื่อเข้าไปอยู่ในชุมชนย่อส่วนเพราะข้อดีประการสำคัญในการย่อขนาดของตัวเองนั้นจะทำให้สินทรัพย์จำนวน 1 แสนดอลลาร์ ที่แทบไม่สามารถซื้ออะไรได้บนโลกใบใหญ่ แต่เมื่อแปลงสินทรัพย์มาในโลกขนาดย่อส่วนแล้วเขาจะมีเงินก้อนถึง 12.5 ล้านเหรียญในโลกใบเล็ก และเงินจำนวนนี้จะทำให้พวกเขามีกินมีใช้ไปตลอดชีวิต แต่ข้อแม้มีเพียงอย่างเดียวคือเมื่อพวกเขาย่อขนาดตัวแล้ว พวกเขาจะไม่มีโอกาสกลับคืนสู่ขนาดเดิมได้อีกเลย


โดยสรุปคือหนังที่สเกลของเรื่องค่อนข้างใหญ่โตมาก เพราะมันพูดถึงสังคมโลก และการทำความเข้าใจของบริบทภาพรวมของหนังนั้น ที่จริงมันมีอะไรที่สามารถหยิบจับและต่อยอดทำเป็นซีรีส์ขนาดยาวได้เลยทีเดียว แต่ด้วยความเป็นภาพยนตร์ องค์ประกอบหลายอย่างจึงถูกรวบรัดตัดตอนไปหมด จนน่าเสียที่หนังเหมือนมีประเด็นให้หยิบจับมาพูดถึง กลับกลายเป็นหนังที่ทำได้แค่ แตะประเด็นอย่างละนิดอย่างละหน่อยจนให้ใจความสำคัญของเรื่องกับการทำความเข้าใจชีวิตของตัวละคร “พอล” ไม่คมคายและน่าประทับใจเท่ากับหนังเรื่องก่อนๆ ของผู้กำกับอเล็กซานเดอร์ เพนน์แต่ในแง่ของภาพรวม หนังเรื่องนี้ก็เป็นหนังที่ดูสนุก มีประเด็นชวนขบคิดมากมาย ยิ่งไปกว่านั้นการแสดงของหงเชา ก็เรียกได้ว่าขโมยซีนในทุกฉากที่เธอปรากฏตัวบนจอหนัง


👉👉  นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ ดูหนังเอเชีย ได้ที่นี่

 

Comments

Popular posts from this blog

รีวิวหนัง Six Minutes to Midnight รหัสลับ พลิกสมรภูมินรก

Seobok (2021) ซอบก

Detective Chinatown 3 แก๊งม่วนป่วนโตเกียว