รีวิว นาจา (Ne Zha) ภาพยนตร์อนิเมชั่น 3D จากฝั่งประเทศจีน "หากโชคชะตาไม่ยุติธรรม ก็จงสู้กับมันให้ถึงที่สุด"

Ne Zha นาจา อนิเมชั่นยอดเยี่ยมที่สุด ที่หลายๆคนยกให้เป็นหนึ่งในอนิเมชั่นในดวงใจกันเลยทีเดียว เป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นของจีน ที่เรียกว่าตอนเข้าฉายในโรงก็สร้างปรากฎการณ์ถล่มทลายในหลายประเทศพอสมควร  สำหรับใครที่ชอบการ์ตูนอนิเมชั่น สายตลก แอคชั่น ซึ่งเรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ที่นำตัวละครเทพบุตร Ne Zha ที่มีชื่อเสียงมากจากในวรรณกรรมห้องสิน มาดัดแปลงและตีความใหม่ โดยผู้กำกับ ยูหยาง (เจี่ยวจือ) โดยนำเสนอในรูปแบบอนิเมชั่น 3D บอกเลยว่าเรื่องนี้ไม่ควรพลาดอย่างมาก


เรื่องราว กล่าวถึงพลังแห่งสวรรค์และโลกที่ได้ให้กำเนิดไข่มุกที่รวมพลังปราณมหาศาลเอาไว้ มหาเซียนสูงสุด หยวนสือเทียนจวิน ผู้ปกครองเขาคุนหลุน แดนวสวรรค์ของเหล่าเทพเซียน จึงสกัดไข่มุกออกเป็นสองลูก โดยลูกหนึ่งได้กลายเป็นลูกปัดสวรรค์ และอีกลูกกลายเป็นลูกปัดปีศาจ ฝั่งลูกปัดสวรรค์ถูกกำหนดให้จุติบนโลกมนุษย์เพื่อให้ช่วยเหลือมนุษย์ในการก่อตั้งราชวงศ์โจวในภาพหลัง ส่วนโของปีศาจมีชะตาต้องกลายเป็นปีศาจร้ายที่จะนำหายนะมาสู่โลกมนุษย์ ดังนั้นเพื่อป้องกันหายนะ หยวนสือเทียนจวิน จึงใช้คาถาเพื่อทำให้ลูกปัดปีศาจต้องถูกทำลาย จากนั้น ไท่อี้เจินเหริน หนึ่งในเหล่าเซียนแห่งคุนหลุน ก็ถูกบัญชาให้นำลูกปัดสวรรค์ไปจุติในครอบครัวของแม่ทัพ หลี่จิ้ง เพื่อให้กำเนิดเทพบุตรออกมา แต่เนื่องจาก พญามังกร ได้ทำการสลับลูกปัดสวรรค์และลูกปัดปีศาจ ด้วยความไม่พอใจที่เผ่ามังกรยิ่งใหญ่ของตนต้องมาคอยควบคุมเหล่าปีศาจจากในแดนบาดาล จึงรอเวลาแก้แค้น จากนั้นลูกปัดปีศาจก็มาจุติเป็นบุตรชายคนที่สามของหลี่จิ้งและภรรยา นั่นก็คือ “นาจา” ในขณะที่ลูกปัดสวรรค์ ก็สลับมาจุติเป็นบุตรของพญามังกร นั่นคือ “เอ๋าปิ่ง” ซึ่งเด็กทั้งสองที่กำเนิดในเวลาเดียวกัน ต่อมาก็กลายมาเป็นสหายกัน


โดยรวมหนังเรื่อง Ne Zha เป็นหนังที่จัดได้ว่าค่อนข้างยาว เพราะใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงเลยทีเดียว แต่กลับไม่มีช่วงไหนน่าเบื่อเลย เรียกว่าเป็นอนิเมชั่นคุณภาพคับแก้วมาก ๆ คือ บทก็ดี น่าติดตาม เดินเรื่องได้สนุก ตลก แล้วส่วนของงานภาพ เรียกได้ว่าไม่แพ้ฝั่งตะวันตกเลยสักนิด ลายเส้นสวย นอกจากนี้ Ne Zha ยังเป็นการ์ตูนอนิเมชั่นที่ออกแบบฉากต่อสู้ และรูปร่างพลังความสามารถของตัวละครได้ดีมาก ๆ มีหลายฉากที่นอกจากงานภาพจะสวยแล้ว ยังชวนลุ้นไปกับผลการต่อสู้ด้วย แต่หนังก็มีสอดแทรกความตลกที่ทำให้หนังดูไม่เครียดจนเกินไปเช่นกัน



👉👉  นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวซีรี่ย์แนวพีเรียด อิงประวัติศาสตร์ ได้ที่นี่

 


Comments

Popular posts from this blog

รีวิวหนัง Six Minutes to Midnight รหัสลับ พลิกสมรภูมินรก

Seobok (2021) ซอบก

Detective Chinatown 3 แก๊งม่วนป่วนโตเกียว