รีวิวหนัง Snowpiercer: Season 3 (ปฏิวัติฝ่านรกน้ำแข็ง ซีซั่น 3)


Snowpiercer: Season 3 (ปฏิวัติฝ่านรกน้ำแข็ง ซีซั่น 3) กลับมาอีกครั้ง ให้เราได้ขึ้นรถไฟผจญภัยไปพร้อมกัน เป็นเรื่องราวจากต้นฉบับนิยายภาพ Le Transperceneige ในปี 1982 ที่นำมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ในปี 2013 (กำกับโดยบงจุนโฮจาก Parasite) ก่อนจะนำมาทำต่อในเวอร์ชั่นซีรีย์ของ Netflix โดยเป็นการบอกเล่าเรื่องราวของการต่อสู้ระหว่างชนชั้น บนรถไฟขบวนยักษ์ 1001 ตู้ ซึ่งหัวขบวนของรถไฟได้ใช้ชีวิตแบบหรู ส่วนคนที่อยู่ท้ายตู้เป็นเหล่าชนชั้นแรงงาน ทำงานแลกอาหาร ใช้ชีวิตไม่ต่างจากนรกบนรถไฟ


เรื่องราวโลกนั้นได้เกิดสภาวะโลกร้อนขึ้นนานาชาตินั้นจึงปล่อยสารเคมีขึ้นไปบนท้องฟ้าเวลาผ่านไปอุณหภูมิของโลกได้ลดลงอย่างรวดเร็วจึงทำให้โลกนั้นเข้าสู่ยุคน้ำแข็ง แต่ทว่าได้มีคนได้เตรียมวิธีรับมือกับเรื่องนี้ไว้แล้ว คุณวิลฟอร์ด เขานั้นคือคนเดียวที่เห็นว่าการกระทำแบบนั้นจะทำให้โลกเกิดหายนะเขาจึงได้สร้างรถไฟที่มีชื่อว่า snowpiercer เป็นขบวนรถไฟที่มีตู้มากถึง1,001ตู้และได้นำพืชและสัตว์บนโลกขึ้นมาด้วยและรถไฟขบวนนี้นั้นจะวิ่งไปเรื่อยๆรอบโลกและมีระบบต่างๆอยู่ในรถไฟนั้น แต่ที่นั่งนั้นมีพื้นที่ๆจำกัดจึงไม่สามารถพาทุกคนขึ้นไปได้พวกเขานั้นจึงได้รับแต่คนที่มีตั๋วขึ้นมาเท่านั้นส่วนมากก็จะมีแต่คนรวย สำหรับประชาชนที่รู้ข่าวนั้นเขาก็ได้มาเพื่อที่จะขึ้นรถไฟแต่พวกเขานั้นไม่สามารถให้ขึ้นได้เพราะมีพื้นที่จำกัด เลยเกิดการประทะกันแต่ก็ยังมีคนส่วนหนึ่งที่ขึ้นรถไฟมาได้ แต่การเป็นอยู่นั้นแตกต่างกับคนที่มีตั๋วอย่างมาก ทำให้ผู้คนที่หลบหนีขึ้นมานั้นมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ย่ำแย่เป็นอย่างมาก



ภาพรวมการดำเนินเรื่องราวเป็นเส้นตรง ไม่มีวกวนไปถึงอดีต เลตันที่เป็นผู้นำของเหล่าผู้คน เค้ามีข้อมูลด้านสภาพอากาศตรงจะงอยแอฟริกา ซึ่งเค้าได้ข้อมูลมาว่า ตรงจะงอยแอฟริกาอากาศเริ่มอุ่นขึ้น มนุษย์สามารถอาศัยอยู่ได้ เลตันจึงบอกให้ผู้คนเชื่อในสิ่งที่เค้าพูด อีกทั้งข้อมูลดังกล่าว เลตันยังได้เห็นนิมิตรและค้นหาข้อมูลตำนานต่างๆในหนังสืออีกด้วย การดำเนินเรื่องในซีซั่นนี้ บางตอนรู้สึกเบื่อไปหน่อยเพราะเป็นบทสนทนาซะส่วนใหญ่ แต่บทสนทนาทั้งหมดนั้น จะทำให้ซีรีย์ดำเนินต่อไปได้อย่างสนุก ความสนุกของซีซั่นนี้ยังอยู่ที่ความสัมพันธ์ของตัวละคร ที่มีความซับซ้อนและความงงงวยมาก ไม่รู้ว่าจะสื่อให้เห็นถึงว่า จิตใจของมนุษย์มีความซับซ้อนมาก จนทำให้คนๆเดียวสามารถมีความคิดได้หลายอย่าง โดยรวมแล้ว เป็นซีรีย์ที่สนุกค่ะ

👉👉 ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ ข่าวต่างประเทศทั่วโลก ได้ที่นี่

Comments

Popular posts from this blog

รีวิวหนัง Six Minutes to Midnight รหัสลับ พลิกสมรภูมินรก

Seobok (2021) ซอบก

Detective Chinatown 3 แก๊งม่วนป่วนโตเกียว