รีวิวภาพยนตร์ The Takedown (2022) คู่หูตำรวจต่างผิวสีจากปารีส

The Takedown เดอะเทคดาวน์ (2022) หนังฝรั่งเศสภาคต่อของ On the Other Side of the Tracks ปี 2012 จากผู้กำกับ Louis Leterrier ที่ทำ Now You see me มาเรื่องนี้เป็นแนวแอ็กชั่นตลกกับเรื่องราวคู่หูตำรวจต่างผิวสีจากปารีส ที่ต้องมาทำภารกิจปราบเหล่าร้ายในเมืองชนบทเล็กๆ แต่เรื่องราวกลับลุกลามใหญ่โตระดับประเทศ 

เรื่องราวของสองตำรวจหนุ่มที่เคยเป็นเพื่อนและคู่หูกันมาก่อน แต่เพราะเหตุผลบางอย่างจึงเดินกันคนละเส้นทางพอได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง มิตรภาพก็ต่อเกือบติดบ้างไม่ติดบ้าง ดูทรงแล้วความกัดกันของสองเพื่อนเก่ามันน่าจะตลก เคมีนักแสดงนำ ตำรวจคู่หู ก็เข้ากันได้ดี แต่ดู ๆ ไปคิดว่า ความฮามันเบากว่าที่คาดหวังไว้พอสมควร หรืออาจจะเพราะไม่เข้าใจภาษาฝรั่งเศส เลยไม่ค่อยอินกับมุขตลกของหนัง ขำบ้างแต่ไม่มาก อีกอย่างการตัดต่อทำให้ดูเหมือนนักแสดงนำและผู้กำกับปล่อยของกันไม่ค่อยเต็มที่

ภาพรวมเรื่องราวในภาคนี้คือการโคจรกลับมาพบกันอีกครั้งของ อุสมานกับฟรองซัว (รับบทโดย Laurent Lafitte) ซึ่งก็ได้ดาราเก่าจากภาคแรกกลับมาทั้งหมด ซึ่งในเรื่องทั้งคู่ก็แยกจากกันไปมีเส้นทางของตัวเอง แต่จากคดีพบศพคนขาดครึ่งตัว แล้วทั้งคู่ไปเจอกันคนละส่วน ทำให้พวกเขาต้องมาร่วมมือกันอีกครั้ง ซึ่งพล็อตเรื่องมันก็วางให้ตลกในตัวอยู่แล้วกับการอ้างสิทธิสืบคดีศพครึ่งตัว หนังเรื่องนี้ก็ยังเดินสูตรแอ็กชั่นคอมเมดี้ขำๆ เหมือนเรื่องอื่น ซึ่งมุกตลกหลักๆ ของเรื่องนี้คือแนวหน้าตายแบบฝรั่งเศส ซึ่งคนไทยก็คงไม่ค่อยชินกับมุกแบบที่ต้องให้คนดูคิดเอาเองถึงขำต่อ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะถึงกับฝืดอะไรเพราะในเรื่องก็ยังมุกแบบพื้นๆ ชวนให้ขำนิดๆ ได้เช่นกัน โดยส่วนใหญ่จะเป็นการแย่งกันเอาหน้าของทั้งคู่ ซึ่งก็ดูเฮฮาน่ารักดี

ถึงเรื่องจะมาแนวติดตลกก็จริง แต่ตัวเนื้อหาก็ค่อนข้างเข้มและโหดเอาเรื่อง อย่างฉากศพผ่าครึ่งในตอนแรกนี่ทำออกมาชวนแหวะมากๆ โดยไม่มีการเซ็นหรือหลบมุมใดๆ ทั้งสิ้น แล้วก็ไม่ใช่แค่ฉากแบบนี้ยังมีฉากอื่นๆ อีกอย่างคนโดนปาดหัวขาดสดๆ โดยเป็นมุกตลกแบบโหดๆ ซึ่งหนังไม่มีเซ็นเซอร์อะไรเลย แบบต้องการให้คนเห็นเต็มตาแหวะๆ กันไปเลย ซึ่งผู้ใหญ่ดูได้แต่นี่ไม่ใช่หนังครอบครัวที่เปิดให้เด็กดูด้วยแน่ๆ ตัวหนังยังแอบใส่เรื่องรักของพระเอกกับตำรวจสาวในเมืองชนบทไว้นิดหน่อย พอให้รู้สึกว่ามีนางเอกอยู่ในเรื่อง แล้วก็เป็นปมให้ทั้งคู่พยายามแย่งกันจีบเกทับเอาใจเธอแบบฮานิดๆ ถือว่าเป็นหนังแอ็กชั่นสูตรสำเร็จที่โอเคเลย มุกตลกอาจจะเข้าใจยากอยู่บ้าง แต่รวมๆ แล้วก็พอมีเรื่องชวนขำได้อยู่เหมือนกัน แล้วก็ไปสนุกเอากับฉากแอ็กชั่นช่วงหลังแทนค่ะ

👉👉 ติดตามรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่  รีวิวซีรี่ย์แนวพีเรียด อิงประวัติศาสตร์